หลายท่านอาจจะสงสัยกับอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นผื่นคัน บวม หรือแดงตามผิวหนัง โดยเฉพาะเมื่อมีผื่นขึ้นบนผิวหนังจนเกิดอาการอักเสบ และบางรายอาจทำให้เกิดเป็นแผลพุพอง มีน้ำหนอง หรือตกสะเก็ดร่วมด้วยนั้น อาจจะทำให้เกิดคำถามขึ้นมาในใจอยู่บ้างว่า อาการดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น คือโรคผิวหนังอักเสบชนิดใด และมีสาเหตุเกิดจากอะไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกท่านกันแล้วค่ะ
ผิวหนังอักเสบคืออะไร
ผิวหนังอักเสบ หรือเรียกว่า Dermatitis คือภาวะอักเสบของผิวหนังที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุและหลากหลายรูปแบบด้วยกัน แต่โดยส่วนใหญ่มักจะมีผื่น บวม และแดงปรากฏบนผิวหนัง แต่ก็มีผิวหนังอักเสบบางชนิดที่ทำให้เป็นแผลพุพอง มีน้ำหนอง และมีการตกสะเก็ดร่วมด้วย ทั้งนี้ภาวะผิวหนังอักเสบที่พบได้บ่อยมากก็คือ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผื่นระคายสัมผัส และเซบเดิร์ม ทั้งนี้ภาวะผิวหนังอักเสบอาจทำให้รู้สึกคัน ระคายเคือง และเสียความมั่นใจเนื่องจากผิวหนังมีลักษณะที่ผิดปกติอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ตามภาวะผิวหนังอักเสบก็ถือเป็นภาวะที่ไม่ติดต่อสู่ผู้อื่น
อาการของโรคผิวหนังอักเสบชนิดที่พบได้ทั่วไป
ภาวะผิวหนังอักเสบแต่ละชนิดที่เกิดขึ้น จะมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับว่าเกิดขึ้นบริเวณใดของร่างกาย จะมีอาการและลักษณะที่มีความแตกต่างอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ที่เป็นอาการของโรคผิวหนังอักเสบชนิดที่พบได้ทั่วไปมีดังนี้
1.ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง – Atopic Dermatitis
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมักจะเป็นตั้งแต่วัยทารก ซึ่งก่อให้เกิดผื่นคันและแดงตามผิวหนัง บริเวณข้อพับแขน ข้อพับขา และลำคอด้านหน้า เมื่อเกาผิวบริเวณดังกล่าวมากๆ อาจทำให้มีหนองไหลหรือทำให้เกิดสะเก็ดหนองตามมาได้ แต่จะดีขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ แต่ผื่นชนิดนี้อาจกลับมาเป็นได้อีกเรื่อยๆ
2.ผื่นระคายสัมผัส – Contact Dermatitis
ผื่นระคายสัมผัสเป็นผื่นที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนังที่สัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือสารก่อความระคายเคือง เช่น สบู่ ผงซักฟอก หรือน้ำยาล้างจาน โดยสัมผัสเป็นเวลานานและสัมผัสบ่อยครั้ง บางรายอาจสัมผัสดอกไม้ พืชผักบางชนิด ยางสังเคราะห์ สีย้อมผ้า โลหะ หรือสารแต่งกลิ่นต่างๆ เป็นต้น ผื่นระคายสัมผัสอาจทำให้รู้สึกคัน แสบร้อน ปวดแสบ หรือเป็นแผลพุพองได้
3.ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มใส – Dyshidrotic Eczema
ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดนี้มักเกิดขึ้นบริเวณมือหรือที่เท้า ซึ่งจะทำให้มีผื่นคันร่วมกับตุ่มใสพุพองเป็นเม็ดเล็กๆ อยู่บริเวณง่ามนิ้วมือ นิ้วเท้า ฝ่ามือ และฝ่าเท้า
4.ผื่นผิวหนังอักเสบที่ข้อเท้า – Stasis Dermatitis
ผื่นผิวหนังอักเสบที่ข้อเท้าโดยส่วนมากจะทำให้เกิดอาการบวม ผิวหนังตกสะเก็ดที่บริเวณขาส่วนล่าง และบางครั้งก็มีแผลเปื่อยหรือแผลเปิดด้านในของขาส่วนล่างและรอบๆ ข้อเท้า ซึ่งผื่นชนิดนี้มักพบในผู้ป่วยที่มีการไหลเวียนของเลือดไม่ดีในเส้นเลือดดำในขา
5.ผื่นผิวหนังรูปเหรียญบาท – Nummular Eczema
ผื่นผิวหนังรูปเหรียญบาท เป็นผื่นผิวหนังอักเสบที่พบในผู้ที่มีผิวแห้ง หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศแห้ง จะมีลักษณะของผื่นเป็นแผ่นผิวหนังที่มีความหนาและแดง กลมๆ คล้ายเหรียญบาท มีอาการคันร่วม ผิวเป็นขุย มีสะเก็ดหนอง และพบบ่อยตามขาส่วนล่าง แขน มือ และลำตัว
6.ผื่นผิวหนังแห้ง – Xerotic Eczema
ผื่นผิวหนังแห้งคือโรคที่ส่งผลให้ผิวแตกแห้ง และมีน้ำหนองไหลออกมาเมื่อผิวหนังแห้งมากจนเกินไป
7.ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง – Lichen Simplex Chronicus
ในส่วนของผิวหนังอักเสบเรื้อรังนั้น จัดเป็นภาวะที่ส่งผลให้ผิวหนังมีความหนาขึ้น และมักจะเกิดขึ้นบริเวณคางและคอ
8.เซบเดิร์ม – Seborrheic Dermatitis
สำหรับเซบเดิร์มนั้นเป็นโรคที่ทำให้ผิวหนังเป็นแผ่นตกสะเก็ด มีอาการแดง ซึ่งหากเกิดที่บริเวณศีรษะจะเกิดเป็นรังแคเรื้อรัง แต่หากเกิดบนผิวหนัง จะเกิดขึ้นบริเวณผิวหนังที่มีความมัน เช่น บริเวณเปลือกตา บริเวณจมูก หน้าอกส่วนบน และหลัง ส่วนที่เกิดขึ้นในทารกมักจะมีสะเก็ดหรือแผ่นหนาๆ บนหนังศีรษะ อีกทั้งยังอาจพบได้ที่บริเวณเปลือกตา โดยโรคเซบเดิร์มจะมีอาการเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ เป็นเวลานานเลยทีเดียว
เมื่อทราบถึงอาการต่างๆ ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบที่พบได้ทั่วไปแล้ว สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ดีมากๆ ในกรณีที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบแล้วนั่นก็คือ การพยายามรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังอย่างเคร่งครัด หรือสำหรับใครที่กลัวว่าจะเกิดอาการที่รุนแรงกว่าที่เป็นอยู่ ก็ต้องพยายามป้องกันภาวะผิวหนังอักเสบให้ดี เช่น ลดเวลาที่ใช้ในการอาบน้ำให้สั้นลง ใช้ผลิตภัณฑ์ผิวหนังที่เป็นสูตรอ่อนโยน เช็ดตัวให้แห้งและควรทำอย่างเบามือ ดูดไขมันที่ไหนดี พร้อมทั้งรักษาความชุ่มชื้นของผิวด้วยการทาครีมหรือน้ำมันหลังจากอาบน้ำทุกครั้ง และนี่ก็ถือเป็นวิธีป้องกันที่มั่นใจในความปลอดภัยได้สูงมาก