สาระน่ารู้! อย่ามองข้ามยาขับประจำเดือน

สาระน่ารู้! อย่ามองข้ามยาขับประจำเดือน

ยาขับประจำเดือน หรือ Haemagogue ความหมายที่ทางการแพทย์และเภสัชกรรมได้นิยามไว้ คือ การเป็นยาที่ใช้หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์แล้วประจำเดือนขาดไป หากตรวจการตั้งครรภ์แล้ว พบว่ามีครรภ์หมายถึงยาสำหรับการทำแท้ง หรือหากไม่พบและต้องการให้ประจำเดือนมาก็จะเป็นยาเร่งประจำเดือน โดยความหมายของยาก็จะต่างกันที่สาเหตุในการทาน แต่การทานจำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่สามารถซื้อมาทานเองได้

ประเภทของยาขับประจำเดือนในปัจจุบัน

สำหรับยาขับประจำเดือนในอดีต จะเป็นยาน้ำและวางจำหน่ายตามร้านขายยา ทว่าปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ทำให้มีการปรับรูปแบบหลากหลายชนิด เพื่อง่ายต่อการใช้งาน คือ ยาสอด, ยาเม็ดทาน และยาน้ำ ทว่าส่วนประกอบหลักของยาดังกล่าว คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจนกับฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน โดยทั้งสองชนิดถ้าทำงานร่วมกันจะไปกระทบต่อการสร้างผนังมดลูกและประจำเดือนจะมาเร็วขึ้น

ทว่าหากเป็นหญิงที่ตั้งครรภ์ การใช้ยาขับประจำเดือน ไม่ได้หมายความว่าเด็กทารกจะออกมา 100% ซึ่งทางการแพทย์ไม่แนะนำให้ใช้ด้วยซ้ำไป เพราะว่าการใช้ยาดังกล่าวในปริมาณมาก ปัญหาที่ตาม คือ มดลูกมีโอกาสฉีกขาดได้และเด็กทารก ไม่หลุดออกมาด้วย ดังนั้นถ้าเสียชีวิตในครรภ์แล้ว ผู้เป็นแม่ก็จะเกิดผลเสียต่อร่างกายได้นั่นเอง ถ้าหากเด็กทารกรอดก็เสี่ยงต่อการเกิดมาไม่สมบูรณ์อีกด้วย

อันตรายของยาขับประจำเดือนมากกว่าที่คิด

ซึ่งนอกจากที่หลายคนจะใช้ยาขับประจำเดือนผิดวิธีแล้ว ผลที่ตามมาไม่ได้มีเพียงที่กล่าวไปข้างต้นเท่านั้น แต่กลายเป็นผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว ส่วนใหญ่ที่พบก็มักจะเกิดอาการ ดังนี้

  • กระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับเลือดทั้งหมด และอาจจะทบให้เกิดโรคหลอดเลือดต่าง ๆ ได้
  • กระทบต่อระบบฮอร์โมนของร่างกาย ด้วยความที่ร่างกายมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปก่อกวน ก็จะทำให้ระบบรวน และมีผลข้างเคียง เช่น อาการบวมและปวด เป็นต้น
  • กระทบต่อการทำงานของตับ ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นโรคตับอักเสบกันส่วนมาก
  • กระทบต่อระบบการทำงานของหัวใจ ซึ่งเป็นอาการที่รุนแรงและรักษาให้หายขาดได้ยากมาก

ทว่าปัจจุบันมียาขับประจำเดือนที่แพทย์ให้ใช้ได้ในบางกรณี เป็นยาขับประจำเดือนชนิดสอดที่มีส่วนประกอบของสาร 2 ชนิด คือ ไมโดซพอรอสทอลและไมเฟพริสโตน  ซึ่งเป็นยาที่ต้องผ่านการสั่งจ่ายของแพทย์เท่านั้น ไม่มีการนำมาสอดเองได้

การทำแท้งที่ปลอดภัย มากกว่าการใช้ยาขับประจำเดือน

ต้องยอมรับส่วนใหญ่ของคนที่หาทาน เพื่อขับประจำเดือน คือ มีอาการตั้งครรภ์ โดยที่ไม่พร้อมนั่นเอง ซึ่งการทานยาเองมีความเสี่ยง ปัจจุบันปี 2021 การทำแท้งไม่ผิดกฎหมายอีกต่อไป ต้องผ่านการวินิจฉัยและกระทำโดยแพทย์เท่านั้น แนวทางในการทำแท้ง แพทย์จะต้องประเมินอายุครรภ์ก่อน หากอายุครรภ์มากเกินไป แพทย์ไม่สามารถทำได้ ถ้าไม่พร้อมจริง ๆ ให้ปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ไม่ได้ต้องการสนับสนุนให้ทุกคนทำแท้ง แต่ควรป้องกันตนเองให้มากที่สุด เพราะการทำแท้งบ่อยครั้ง ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายแน่นอน ดังนั้นคิดและวิเคราะห์ให้ดีก่อนเสมอ

วิธีดูแลตนเองให้ประจำเดือนมาปกติ ไม่ต้องพึงยาขับประจำเดือน

ในกรณีที่ไม่ได้ตั้งครรภ์แต่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะปัจจัยที่ทำให้ประจำเดือนมาผิดปกตินั้น มีหลายปัจจัย โดยมีแนวทางในการป้องกัน ดังนี้

  • ลดความเครียด หาความสุขให้ตนเอง เพราะความเครียดที่สะสมมาก ๆ ส่งผลกระทบไปถึงฮอร์โมนเพศได้และเป็นสาเหตุหลักของการขาดประจำเดือน
  • มีเพศสัมพันธ์ควรป้องกัน ทั้งนี้การป้องกันการตั้งครรภ์เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ประจำเดือนไม่มาและยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
  • รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม น้ำหนักตัวที่มากเกินพอดี จะทำให้ร่างากายผลิตฮอร์โมนได้ไม่เต็มที่และเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบไปถึงการมาของประจำเดือนได้เช่นกัน
  • เข้าใจการทานยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ต้องเข้าใจก่อนว่าประจำเดือนเกิดจากการหลุดลอกของผนังมดลูกที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับทารก เมื่อไม่มีทารกมาเกาะก็จะหลุดออกมาเป็นประจำเดือน การทานยาคุม การสร้างผนังเพื่อรองรับทารกไม่มี ก็จะไม่มีประจำเดือนนั่นเอง
  • ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือการทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และควรขยันในการออกกำลังกาย

ทั้งนี้ในการดูแลตนเองของผู้หญิงที่มีประจำเดือน เป็นอีกหนึ่งสิ่งในการบ่งบอกสุขภาพที่ดีของร่างกาย ดังนั้นควรดูแลตนเอง การใช้ยาขับประจำเดือนไม่ใช่ทางออกที่ดีของปัญหาทุกอย่างเสมอไป

สุขภาพ